เมืองหลวงอันเก่าแก่และน่าค้นหา “ฮานอย”

เมืองหลวงอันเก่าแก่และน่าค้นหา “ฮานอย”

#Where To Go / Hanoi – The Most Ancient Capitals In The World

ซิน จ่าววววววววว ค่ะทุกๆ คน… อย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไมถึงทักทายกันเป็นภาษาอื่น 🙂 ซินจ่าว เป็นภาษาเวียดนาม แปลว่า สะวีดัด หรือสวัสดี นั่นเองค่ะแม่!!! 🙂 เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเรายังพอมีภาพบรรยากาศครั้งที่ไปเที่ยวเวียดนามอยู่นินาาาาาา : ) (ยิ้มมุมปากยกข้างเดียวแบบเบลล่าให้อิจฉากันเล่นๆ)

งั้นวันนี้เราขออาสาพาไปเที่ยวเวียดนาม มุ่งสู่จุดหมายปลายทางกับเมืองหลวงที่หลายต่อหลายท่านน่าจะคุ้นหูคุ้นตา หรือเคยได้ยินชื่อเสียงกันมาบ้างแล้วนะคะกับ “ฮานอย” 🙂

HISTORY

ทิวทัศน์ของทะเลสาบหว่านเกี๊ยม และสะพานเทฮุก หรือสะพานสีแดงที่คนชอบมาถ่ายรูปเล่นยามเย็นกันน่ะค่ะ

ทำไมต้องมา ฮานอย? ก็เพราะว่าฮานอยนั้น ถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้นะคะ โดยมีอายุมากถึง 1,000 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 1553 ค่ะ ซึ่งตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดง และตรงกับชื่อของ ฮานอย ที่แปลว่า เมืองบนฝั่งโค้งของแม่น้ำ นั่นเองค่ะแม่!!! อย่าแปลกใจนะคะว่าทำไมเมืองหลวงของเวียดนามนี้ถึงยังมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมของตะวันตกผสมผสานอยู่ในทุกอณูของเมือง เนื่องจากฮานอยนั้นเคยตกเป็นเมืองอาณานิคมของฝรั่งเศสและจีนด้วยน่ะสิคะคุณ จึงทำให้เราได้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของบ้านเมืองในสไตล์โคโลเนียลที่เป็นมรดกตกทอดให้คนรุ่นหลัง และเราได้สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมดังกล่าวมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

SCENERY

บรรยากาศของเมือง ผู้คน นักท่องเที่ยว และสีสันยามค่ำคืนค่ะ
ถนนหนทางยามค่ำคืน กับแสงสีของดวงไฟประดับประดาไปทั่วเมืองค่ะ
มหาวิหารเซนต์โจเซฟท่ามกลางบ้านเมืองและสีสันของผู้คน รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ 🙂

เราเดินทางมาถึงฮานอยช่วงบ่ายๆ ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แบบไม่รีบร้อนและสบายๆ พอถึงปุ๊บก็เอาข้าวของกระเป๋าเดินทางไปเก็บและเช็คอินโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ กับมหาวิหารเซนต์โจเซฟแบบสามารถเดินได้ไม่ไกลเท่าไรนัก 🙂 กว่าจะทำโน่น นี่ นั่น จัดเสื้อผ้าแขวนไว้เรียบร้อยแล้วก็ออกมาเดินเล่น ถ่ายรูป ดูผู้คนและนักท่องเที่ยวมากมายที่เดินอยู่ตามถนนหนทางในเมืองอย่างสนุกสนาน

สำหรับอากาศตอนนั้นเท่าที่จำได้คือ อุณหภูมิประมาณสัก 24 องศานะคะ เรียกได้ว่าเย็นสบายเลยละค่ะ และด้วยผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ตามท้องถนนก็ดูสบายตา หมายถึง เขายิ้มแย้มแจ่มใสดูเป็นมิตรพร้อมกับทักทายเราแม้จะไม่รู้จักกันก็ตามค่ะ (หนูไม่ได้มองผู้ตามถนนนะคะ อย่าเข้าใจผิดน้าาาาาาา)

HOTEL & ROOM DESIGN

บริเวณด้านหน้าของโรงแรม The Chi Boutique Hotel ค่ะ
Lobby ของโรงแรมที่ดูหรูหราบูทีคสมชื่อจริงๆ ค่ะ
Lobby ชั้น 2 ของโรงแรม ในระหว่างรอเพื่อนๆ ค่ะ 🙂

หลังจากเหนื่อยจากการเดินเล่นและถ่ายรูปในเมืองกันมาสักพักใหญ่ๆ เราก็กลับมาชมโรงแรมและห้องพักกันบ้างนะคะ 🙂 เราพักกันที่ The Chi Boutique Hotel เป็นโรงแรมบูทีคเล็กๆ แต่น่ารักซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับมหาวิหารเซนต์โจเซฟ และทะเลสาบหวานเกี๊ยม บนถนน Nha Chung ค่ะ… ไปชมห้องพักกันต่อเลยนะคะ

ห้องพักแบบ King Bed Room ในสไตล์โมเดิร์นผสมเรโทรหน่อยๆ ค่ะ
มีเคาน์เตอร์โต๊ะทำงานพร้อมทีวี และที่วางสัมภาระกับกระเป๋าเดินทางบริเวณทางเข้าค่ะ
ด้านข้างเตียงมองเห็นเรนชาวเวอร์แบบซีทรูเลยละค่ะ 🙂
โซนของห้องน้ำที่เป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเล็กๆ น่ารักดีค่ะ

SIGHTSEEING TOUR

ตื่นเช้ามาไหว้พระกับวัดใกล้ๆ ที่พักกันหน่อยค่ะ
เดินกลับมาแถวๆ บริเวณถนนด้านหน้ามหาวิหารเซนต์โจเซฟค่ะ
แอบแวะเข้ามาสั่งกาแฟที่ร้าน Starbucks กันนิดนึงนะคะ 🙂
เดินเข้ามาดูบรรยากาศภายในมหาวิหารเซนต์โจเซฟกันสักหน่อยนะคะ
แวะมาดื่นกาแฟอีกสักแก้วที่ร้านกาแฟท็อปลิสต์ชื่อดังกับร้าน Cong Caphe ก่อนกลับอีกนิดนะคะ
ปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศของบ้านเมืองช่วงเที่ยงๆ ค่ะ

ตื่นเช้ามาก็ขอเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการเดินไปไหว้พระที่วัดใกล้ๆ โรงแรมกันก่อนค่ะ สาธุ!!! ขอให้ได้ขอให้โดน เอ้ย!!! ขอให้หนูโชคดีในทุกๆ เรื่องดีกว่าค่ะ 🙂 เดินเล่นกันต่ออีกสักนิด ดูตึกและถนนหนทางภายในเมือง หลังจากนั้นเริ่มง่วงเลยขอแวะเข้าไปซื้อกาแฟที่ร้าน Starbucks ดื่มจนหมดแล้วเลยเดินเข้าไปชมภายในมหาวิหารเซนต์โจเซฟ ด้านในอลังการมาก เย็นสบาย บวกกับกระจกสีต่างๆ สวยงามจริงๆ ค่ะ… หิวเครื่องดื่มอีกแล้วอ่ะค่ะ เลยขอแวะไปร้าน Cong Caphe ที่เป็นร้านกาแฟชื่อดังของเวียดนามเขาเลยนะคะคุณ หลังจากนั่งพักกันจนหายเหนื่อยแล้ว ลืมไปว่าจะต้องรีบไปเตรียมตัวทำธุระต่ออีกเล็กน้อย… ไว้กลับมาพาทุกๆ คนเที่ยวกับ “ฮานอย” เมืองหลวงที่มีมนเสน่ห์กับวัฒนธรรมที่แสนงดงามกันใหม่นะคะ 🙂 กาม เอิ่น ค่าาาาาาาาา

Loading



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *