เวลาที่เรานึกถึงภาพของศิลปะวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับความโบราณคดี หรือประวัติศาสตร์ที่อยู่คู่ภาพจำของเรามาตั้งแต่สมัยที่เรายังเด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก เราก็คงจะนึกถึง อยุธยากันใช่ไหมคะคุณ 🙂 เชื่อว่าหลายๆ คนต้องพูดและพยักหน้าว่า ใช่ค่ะ ใช่ครับกันเป็นแน่แท้ แน่นอนว่าความสวยงามของวัดวาอารามต่างๆ ที่ตั้งรายล้อมอยู่ทุกหัวระแหงและอยู่ทั่วเมืองที่เคยเป็นราชธานีเก่า หรือเมืองหลวงของสยามประเทศเรามาอย่างยาวนานถึง 417 ปี ยิ่งทำให้ภาพจำเหล่านี้ ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของเรามากยิ่งขึ้นค่ะ

ตามคำขวัญประจำจังหวัดที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีที่ว่า “ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา เลอคุณค่ามรดกโลก” นั่นแหละค่ะคุณ 🙂 และแล้วเพลานี้ก็ถึงฤกษ์งามยามดีที่เราและเพื่อนสาวนั้น ได้ถือเอาฤกษ์ชัยไปไหว้พระกันถึงพระนครศรีอยุธยากันเลยล่ะค่ะ หลังจากที่ตระเวนไหว้พระในกรุงเทพฯ กันจนจะหมดทุกวัดแล้วค่ะแม่!!! (จริงๆ น่ะอยากจะไปเที่ยวหรอกแม่ เลยหาข้ออ้างไปไหว้พระกันที่ต่างจังหวัดบ้างไรบ้างเน๊าะ) เพียงนัดหมายกันไม่ถึงชั่วยาม เราก็ได้นัดหมายวันเดินทางกันเรียบร้อย และพร้อมออกเดินทางด้วยราชรถของเพื่อนสาวค่ะ จริงๆ แล้วเรากะว่าจะนั่งรถไฟชิวๆ ไปไหว้พระกัน แต่ด้วยบุญบารมีของเราและเพื่อนสาวนั้นยังมีอยู่จริง ทำให้ไม่ต้องลำบากลำบนในการเดินทางด้วยรถไฟน่ะค่ะ (เอาไว้ทริปหน้าที่เราอยากจะปลีกวิเวกไปคนเดียว ไว้เดี๋ยวจะทำทริปที่เดินทางด้วยรถไฟให้คุณๆ ได้ชมและเดินทางไปด้วยกันนะคะ)

หลังจากที่เราได้เดินทางไปไหว้พระกันอย่างอิ่มบุญกันไปเต็มๆ แล้ว คราวนี้ก็ถึงเพลาที่จะต้องหาร้านหรือคาเฟ่เก๋ๆ ที่น่าสนใจ และถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจรวมถึงได้พูดคุยเล่าสารทุกข์สุขดิบให้กันฟังไปด้วยน่ะค่ะ แล้วเราก็ถามอากู๋ว่ามีร้านสวยๆ ที่อยู่ในเมืองเก่าแห่งนี้ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาบ้างไหม และเราก็ได้ค้นพบกับ sala ayutthaya rooftop lounge & bar แห่งนี้แหละค่ะที่ถูกใจอีช้อยยิ่งนัก (อีช้อยเป็นใครคะ?) เพื่อนสาวไม่รอช้ารีบขับรถออกจากวัดอย่างเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงค่ะ สำหรับ rooftop lounge & bar จะตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรม sala ayutthaya นะคะ คุณสามารถจอดรถได้ที่ด้านหน้าโรงแรมเลยค่ะแต่ต้องแจ้งกับพี่ รปภ. ของทางโรงแรมก่อนนะคะว่าเราจะมาทานอาหารหรือมาที่รูฟท็อปบาร์ พี่ รปภ. เขาใจดีจะได้ช่วยดูที่จอดรถให้ค่ะ 🙂