NAKHON PATHOM ONE DAY TRIP

Nakhon pathom one day trip
เที่ยวนครปฐมใกล้ๆ ด้วยรถไฟไปเช้าเย็นกลับ

#WHERE TO GO

กลับมาแล้วค่ะคุณๆ ที่รัก หลังจากที่ห่างหายไปนานมากจนจะลืมไปแล้วนะคะว่ายังมีเว็บไซต์ในการเล่าเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่การกินอาหาร รีวิวแฟชั่นอินเทรนด์ต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่าเพิ่งเบะปากมองบนกันนะคะ 🙂 เอาเป็นว่าตอนนี้ได้ฤกษ์งามยามดีที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยว ถึงแม้จะเป็นการเดินทางในระยะสั้นๆ แบบไปเช้าเย็นกลับก็ตาม จริงๆ คือไปถ่ายงานด้วยน่ะค่ะ เลยถือโอกาสนี้ในการเล่าเรื่องการเดินทางในทริปสั้นๆ นี้ให้คุณๆ ที่รักได้อิ่มเอมกับบรรยากาศไปพร้อมๆ กับเราเลยนะคะ

 

โดยทริปสั้นๆ ของเราในครั้งนี้จะเป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวนครปฐมกันค่ะ หลายๆ คนอาจจะบอกว่า เคยไปแล้วค่ะจะมาเล่าทำไม แต่ๆๆๆ อย่าเพิ่งใจร้อนนะคะ เราเองก็เคยไปนครปฐมมาแล้วเช่นกันค่ะคุณ แต่ที่จะมารีวิวทริปในครั้งนี้ เพราะว่าเราเดินทางไปด้วยรถไฟฟ้าและต่อด้วยรถไฟแบบชิลๆ เพียง 1 ชั่วโมงก็ถึงนครปฐมแล้วละค่ะแม่!!!

 

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เราไปด้วยรถไฟฟ้าแล้วต่อด้วยรถไฟจริงๆ ค่ะ อ่ะๆๆๆ เดี๋ยวจะหาว่าเราโม้หรือเปล่า งั้นเราไปเริ่มต้นการรีวิวทริปสั้นๆ ที่ไม่ไกลกรุงเทพเมืองฟ้าอมรแบบไปเช้าเย็นกลับกับ Nakhon Pathom One Day Trip กันเลยนะคะคุณ 🙂

NAKHON PATHOM ONE DAY TRIP

new trian
New trip

อย่างที่บอกไว้ว่าการเดินทางในทริปสั้นๆ ของเราในครั้งนี้ โดยสารด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งถือว่ายังเป็นขบวนใหม่และผู้โดยสารค่อนข้างน้อยจึงสะดวกสบายมากแม้เราจะเดินทางในวันหยุดก็ตาม เริ่มต้นจากสถานีกลางบางซื่อ ไปยังสถานีตลิ่งชันแล้วเปลี่ยนขบวนไปขึ้นรถไฟธรรมดาชั้น 3 นั่งชิลๆ กินลมไปเรื่อยๆ ประมาณ 55 นาทีก็ถึงนครปฐมแล้วจ้า 🙂

Nakhon Pathom One Day Trip

NAKHON PATHOM ONE DAY TRIP

เราออกเดินทางประมาณ 9.40 น. โดยเริ่มจากไปถึงที่สถานีกลางบางซื่อแล้วไปซื้อตั๋วรถไฟฟ้าสายสีแดงเพื่อจะมุ่งหน้าไปปลายทางที่สถานีตลิ่งชัน ค่าโดยสารคนละ 30 บาทนะคะ ได้รับมาเป็นเหรียญสีดำๆ ค่ะ อย่าทำหายนะคะคุณ 🙂 หลังจากนั้นให้สังเกตป้ายที่ไปยังชานชาลาหมายเลข 9 และ 10 บางซื่อ-ตลิ่งชันนะคะ อย่าเผลอไปทางรังสิตเด้อสาวววว แล้วขึ้นไปนั่งรอรถไฟสวยๆ แค่นั้นค่ะ ขอบอกว่าขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดงสวยนะ ฟีลเหมือนได้นั่งรถไฟฟ้าขบวนของญี่ปุ่นเลยค่ะ 🙂

NAKHON PATHOM ONE DAY TRIP

ใช้เวลาเดินทางจากสถานีกลางบางซื่อไปยังสถานีตลิ่งชันประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้นเองค่ะ แถมคนใช้บริการก็ค่อนข้างน้อยด้วย โล่งดีค่ะถ่ายรูปได้สวยมากกกก 🙂 หลังจากถึงสถานีตลิ่งชันก็เดินลงจากขบวนเพื่อลอดอุโมงไปซื้อตั๋วรถไฟธรรมดากันต่อค่ะ เนื่องจากเรารีบไปเพราะกลัวฝนจะตกก็เลยไม่ได้ถามพนักงานว่ามีขบวนรถไฟประเภทไหนบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วมีทั้งแบบปรับอากาศ แบบธรรมดา และแบบขบวน Feeder นะคะ เราเลยได้ขบวนแบบธรรมดาเพราะเวลาคือดีมากค่ะ ค่าโดยสารเพียงคนละ 9 บาทเท่านั้นค่ะแม่!!!

Journey to
the landmark

The New
mood therapy
STORY4

ใช้เวลาในการเดินทางจากสถานีตลิ่งชันโดยทางรถไฟก็จะจอดรับผู้โดยสารในแต่ละสถานีไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีนครปฐมซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของทริปเราในครั้งนี้ค่ะคุณ สิริรวมเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเองค่ะ ก็ถือว่าทำเวลาได้ดีและก็ไม่นานจนเมื่อยก้นเนื่องจากที่นั่งเป็นแบบไม้ให้ฟีลต๊ะต่อนยอนดีค่ะแม่!!!

Legendary
foods

พอถึงนครปฐมปุ๊บท้องเราก็ร้องทันทีเนื่องจากตอนเช้านั้นรีบเลยกินอาหารเช้าไม่ทัน ก็เลยต้องหิ้วท้องเพื่อจะมากินข้าวกลางวันรวบยอดทีเดียวไปเลยค่ะ เมื่อหันหลังให้กับสถานีรถไฟนครปฐมก็แค่เดินตรงอย่างเดียวแล้วข้ามสะพานสวยๆ ที่มีชื่อเรียกว่าสะพานเจริญศรัทธา (สะพานยักษ์) ที่มองเห็นพระปฐมเจดีย์นั่นแหละค่ะ ให้เลี้ยวซ้ายนะคะ ก็จะถึงร้านตั้งฮะเส็ง ซึ่งเปิดขายข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต่างๆ มีหมูสะเต๊ะ และเต้าหู้ทอดร้อนๆ สีเหลืองน่ากินมากๆ ลอยมาเตะจมูกเราเลยละค่ะคุณ อ่ะสั่งเลยค่ะพร้อมกินมากค่ะ!!!

หลังจากอิ่มจนเกือบจะหลับแล้วก็ต้องไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อยนะคะ จากร้านตั้งฮะเส็งให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเดินมุ่งหน้าไปยังพระปฐมเจดีย์ ซึ่งห่างจากร้านเพียง 200 เมตรเองค่ะ แต่ด้วยแดดร้อนมากคุณๆ ต้องพกหมวกหรือร่มพับเล็กๆ ติดกระเป๋าไปด้วยนะคะ กันแดดกันฝนได้ดีเลยละค่ะ สำหรับองค์พระปฐมเจดีย์นั้นเป็นสัญลักษณ์คู่กับเมืองนครปฐมมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ได้มาพบครั้งทรงผนวชได้ธุดงค์มาพบพระปฐมเจดีย์แล้วเมื่อขึ้นครองราชย์จึงได้ให้ก่อเจดีย์แบบลังกาครอบองค์เดิมไว้โดยให้ชื่อว่า พระปฐมเจดีย์ นั่นเองค่ะ 

Phra
Pathom chedi

หลังจากใช้เวลาในการเดินดูส่วนต่างๆ ขององค์พระปฐมเจดีย์จนพอใจแล้ว ก็ต้องรีบกลับมาซื้อตั๋วรถไฟขากลับกรุงเทพฯ กันต่อค่ะคุณ เนื่องจากเรารีบทำเวลา ซึ่งจริงๆ จะอยู่ต่อเพื่อจะไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกก็ได้นะคะถ้าคุณมีเวลาเพียงพอ แต่เราอยากกลับมาให้ทันขบวนรถไฟ Feeder ค่ะ จริงๆ ก็ต่างกันแค่ที่นั่งที่จะนุ่มคล้ายๆ โซฟาเดี่ยวนั่นแหละค่ะ จะไม่ใช่ที่นั่งแบบไม้ และราคาก็จะต่างกันโดยเพิ่มขึ้นอีกแค่ 11 บาท รวมต่อคนก็คนละ 20 บาทเองค่ะคุณ ถือว่าคุ้มมากๆ ค่ะในการเดินทางด้วยรถไฟขบวนแบบนี้ 

 

แล้วก็นั่งกลับอีกประมาณ 55 นาทีก็จะถึงสถานีชุมทางตลิ่งชัน เราก็ลงเพื่อไปหยอดเหรียญอัตโนมัติสำหรับขึ้นขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดงกลับเข้าเมืองกันต่อค่ะ แต่ครั้งนี้จะเป็นราคา 35 บาทต่อคนนะคะ (งงว่าทำไมราคาไม่เท่าขามาล่ะคะคุณ) สิริรวมค่าใช้จ่ายในการเดินทางทริปสั้นๆ ของเราในครั้งนี้ไม่ถึง 1,000 บาทเลยค่ะ หนักไปที่ค่าอาหารการกินมากกว่าค่าเดินทางอีกค่ะแม่ เรียกว่าคุ้มและสนุกมากๆ ค่ะ แบบไม่เร่งรีบปล่อยใจสบายๆ (หรอแม่) 

 

สำหรับทริปหน้านั้นเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน จะในประเทศหรือต่างประเทศ หรือสถานที่ใดนั้นก็คอยติดตามกันได้แล้วจะมาอัพเดตให้คุณๆ ที่รักได้อ่านรีวิวและรับชมภาพบรรยากาศกันอีกนะคะ ฝากติดตาม WachiZone ในช่องทางโชเชียลมีเดียต่างๆ ไว้ด้วยนะคะ XOXO 🙂

Loading